Unseen Thailand 13 วัดสวย หลังโควิดนี้...ต้องไปเพิ่มแต้มบุญ

   ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวิกฤตทำให้เราทุกคนกลายเป็นคนติดบ้าน ต้องงดเดินทาง พักเรื่องกิน เรื่องเที่ยว จดจ่ออยู่กับสถานการณ์ว่าเมื่อไหร่หนอ จะคลี่คลายซักที บางคนต้อง Work from home นานแรมเดือน ก็เริ่มจะเบื่อบรรยากาศเดิมๆแล้วใช่มั้ยหละคะ ถ้าได้ไปเที่ยวสัมผัสธรรมชาติ  เข้าวัดทำบุญบ้างคงดี เพราะอยู่บ้านนานๆ เอ๊ะ...น้ำหนักขึ้น แต่รู้สึกแต้มบุญลด 

   วันนี้ทีพาร์ทเนอร์ได้รวบรวมวัด ที่เป็น Unseen ของไทย ทั้งสวยและศักดิ์สิทธิ์ ไปแล้วนอกจากแต้มบุญจะเพิ่มขึ้นรัวๆ ยังเป็นการพักผ่อน และช่วยฟื้นฟูร่างกายได้อีกด้วย หลังวิกฤตนี้ ลงวันหยุดรอแล้ว !

1. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพฯ
   วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระเเก้ว เป็นวัดในพระบรมมหาราชวัง ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เป็นวัดสำคัญ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางพุทธศาสนาที่เชิดหน้าชูตาให้กับประเทศไทย ภายในประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของคนไทย สามารถเข้าไปกราบไหว้ ขอพรพระแก้วมรกตได้ แต่การเข้าชมวัด สิ่งสำคัญอันดับแรกจะต้องแต่งตัวสุภาพ ทั้งเสื้อและกางเกงเท่านั้นนะคะ 

ที่ตั้ง : วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

2. วัดสามพราน จ.นครปฐม 
   อีกหนึ่งแลนด์มาร์คใกล้กรุงเทพ เป็นวัดจีนที่เด่นในด้านสถาปัตยกรรม มีเอกลักษณ์แปลกตา ที่หอคอยสีชมพูสูง 17 ชั้น มีมังกรยักษ์ตะกายฟ้าพันอยู่รอบตัวตึก ส่วนไฮไลท์ของที่นี่ คือ คุณสามารถเดินขึ้นไปสู่ยอดตึกนี้ได้โดยการเข้าไปในตัวมังกร เหมือนเป็นการลอดท้องมังกร แต่ขอบอกเลยว่าไม่ได้เป็นบันไดวน แต่เป็นอุโมงค์ทางลาด ระยะทางประมาณ 300 เมตร ต้องใช้ใจและแรงเพื่อที่จะขึ้นไปชั้นบนสุด แล้วนำผ้าแดงที่เขียนชื่อตัวเอง และครอบครัว ไปอธิษฐานขอพรและนำมาผูกไว้ตรงระเบียง เพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ยังสามารถไปสักการะ ขอพรหลวงพ่อพุทโธภาวนา ปางประทานพร เพื่อขอโชคลาภได้อีกด้วย

 
ที่ตั้ง : วัดสามพราน 92/8 หมู่ 7 ต.สามพราน อ.สามพราน จ.นครปฐม

3. โบสถ์สีทอง วัดปากน้ำโจ้โล้ จ. ฉะเชิงเทรา 
   เดินทางง่าย ไม่ไกลจากกรุงเทพ โดดเด่นที่พระอุโบสถสีทองทั้งหลัง ไม่ว่าจะเป็นภายในหรือหรือนอกตัวอุโบสถ มองแล้วงดงามตระการตา โดยผู้คนส่วนใหญ่จะไปสักการะ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อบนบานขอให้สิ่งต่างๆประสบความสำเร็จ และที่วัดยังมีไฮไลต์ ลอดใต้ฐานพระประธาน เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลอีกด้วย

ที่ตั้ง : วัดปากน้ำโจ้โล้ ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 3121 ต.ปากน้ำ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา

4. วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
   วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขา และทะเลหมอกสีขาว มีทิวทัศน์สวยงามและโดดเด่นที่สถาปัตยกรรม มีการนำกระเบื้องสี มุก-ลูกปัด ตลอดจนเซรามิค มาประดับให้ความสวยงามและแปลกตา ที่สำคัญเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเข้าไปสักการะ เพื่อความเป็นศิริมงคล และยังมีมหาวิหาร “พระพุทธเจ้า 5 พระองค์” ที่ถือเป็นจุดไฮไลท์ของวัดเลยก็ว่าได้

ที่ตั้ง : วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว  95 หมู่ 7 บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

5. วัดสังกระต่าย จ.อ่างทอง
   สถานที่ Unseen ในเมืองอ่างทอง มีโบสถ์เก่าแก่ อายุมากกว่า 400 ปี โดยโบสถ์ถูกแบ่งเป็น 3 ห้อง ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ แต่ที่น่าอัศจรรย์คือ โบสถ์เก่าแห่งนี้สามารถตั้งอยู่ได้โดยมีต้นโพธิ์จำนวน 4 ต้น  โอบล้อมให้ร่มเงา และช่วยพยุงโบสถ์เอาไว้ทำให้ไม่ผุพังลงมา นอกจากนี้ชาวบ้านยังนิยมเข้ามาสักการะ ขอพร “หลวงพ่อแก่น” เพราะมีความเชื่อในด้านมงคลบารมีและตัวเลข เอ๊ะๆ...ไม่ได้ชี้นำน้า ถ้าอยากรู้ว่าจริงมั้ย ต้องมาพิสูจญ์ด้วยตัวเองนะคะ

ที่ตั้ง : วัดสังกระต่าย ต.ศาลาแดง ต.ศาลาแดง อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง

6. วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา
   วัดบ้านไร่เป็นวัดเก่าแก่ ตั้งแต่สมัยร.๕ ในช่วงที่หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เป็นเจ้าอาวาส ได้มีการพัฒนาอย่างมาก  และด้วยแรงศัทธราของชาวบ้านทำให้เกิดเป็นศาสนอาคารมากมาย โดยไฮไลท์ของที่นี่คือ “วิหารเทพวิทยาคม” เป็นอุทยานธรรมกลางบึงน้ำขนาด 30 ไร่ วิหารเป็นอาคารประติมากรรมช้างขนาดใหญ่ มีความสวยงามตระการตา และเป็นมหาวิหารแห่งพระไตรปิฎก ที่แรกในประเทศไทย สร้างขึ้นเพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไป  นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ที่คุณสามารถเข้าชมเรื่องราวชีวประวัติของหลวงพ่อคูณผ่านงานศิลปะรูปแบบต่างๆ สร้างความศรัทธรา และความจรรโลงใจได้ไม่น้อยเลย

ที่ตั้ง : วัดบ้านไร่ 111/90 หมู่ 6 ต. กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา

7. วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว จ.อุบลราชธานี
   เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง ได้รับขนานนามว่าเป็นวัดเรืองแสง มีการจำลองสภาพแวดล้อมของวัดป่าหิมพานต์หรือเขาไกรลาศ ไฮไลท์ของวัด คือ การได้มาชมภาพเรืองแสงสีเขียวของของต้นกัลปพฤกษ์ เป็นจิตรกรรมที่อยู่บนผนังด้านหลังของอุโบสถในยามค่ำคืน ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการมาชมและถ่ายภาพคือ ตั้งแต่เวลา 18.00-19.30 น. แต่การมองด้วยตาเปล่าอาจจะไม่ค่อยเรืองแสงเท่าการถ่ายภาพ หากคุณอยากเก็บภาพความงดงามผ่านสายตา อาจต้องเผื่อใจไว้เล็กน้อย แนะนำให้ใช้กล้องถ่ายภาพจะสวยงามแบบ HD มากกว่าค่า

ที่ตั้ง : เลขที่ 99 หมู่ที่ 6 บ้านอ่างประดู่ ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี

8. วัดภูมโนรมย์ จ.มุกดาหาร
   วัดภูมโนรมย์ เป็นวัดเก่าแก่ ใน จ.มุกดาหาร จุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ คือ รูปปั้นองค์พญานาคขนาดใหญ่ ที่ชื่อว่า “องค์พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช” มีลำตัวสีเขียวอมฟ้า และมีลวดลายที่วิจิตรบรรจง จนได้ชื่อว่าเป็นพญานาคที่งดงามและมีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ไฮไลท์ของที่นี่คือ การตั้งจิตอธิษฐาน แล้วเดินลอดท้องพญานาคทั้ง 7 ช่อง โดยชาวบ้านมีความเชื่อที่แตกต่างกันไป หลังจากนั้นก็จะนำผ้าแดงที่เขียนชื่อตัวเองไปผูกไว้ที่ต้นไม้รอบองค์พญานาค เพื่อความเป็นสิริมงคล วัดแห่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่อลังการ และมีคุณค่ามากของ จ.มุกดาหาร 

ที่ตั้ง : วัดภูมโนรมย์ หมู่ 5 ต.นาสีนวน อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร 

9. วัดศรีอุทุมพร จ.นครสวรรค์
   เป็นวัดที่ชาวนครสวรรค์ให้ความเคารพศรัทธา อยู่ห่างจากตัวเมือง 25 กิโลเมตรเท่านั้น ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมที่วิจิตรงามมากมาย อาทิ โบสถ์ลอยฟ้า , เสาร้อยต้น มีความอ่อนช้อยงดงาม ประดับตกแต่งด้วยเครื่องชามเบญจรงค์หลากสีสัน มีการแฝงปริศนาธรรมเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ศึกษา และยังเป็นวัดที่เก็บร่างสรีระธาตุขันธ์ไม่เน่าไม่เปื่อย ขององค์หลวงพ่อจ้อย เกจิอาจารย์นักพัฒนา แห่งเมืองเมืองปากน้ำโพ สามารถเข้าสักการะกราบไหว้ เพื่อความเป็นสิริมงคลได้ค่ะ

ที่ตั้ง : วัดศรีอุทุมพร 89 หมู่ 9 ต.หนองกรด อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์

10. วัดห้วยปลากั้ง จ.เชียงราย
   ที่นี่เป็นอีกหนึ่งวัด Unseen ของจังหวัดเชียงราย ผู้คนแวะเวียนมาท่องเที่ยวชมความงาม และสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล เสริมบุญและดวงชะตา เมื่อเข้ามาภายในวัดทุกสายตาจะสะดุดกับองค์เจ้าแม่กวนอิมสีขาวกระจ่างตา โดดเด่นเป็นสง่า มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ความสูงเทียบเท่าตึก 25-26 ชั้น มีไฮไลท์ที่เราสามารถเข้าชมความสวยงามภายในองค์เอาแม่กวนอิมได้ เมื่อเข้าไปจะรู้สึกหมือนอยู่ท่ามกลางสรวงสวรรค์ ผู้คนเชื่อว่าหากมาขอพรในเรื่องสุขภาพ การเงิน และการงาน จะสมหวังได้รับพรนั้นกลับไป วัดแห่งนี้จะเป็นการเริ่มต้นทริปที่ดี และอิ่มบุญแน่นอน

ที่ตั้ง : วัดห้วยปลากั้ง 553 หมู่ 3 ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย

11. วัดพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่
   วัดเก่าแก่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่มีความสำคัญทางศาสนาและประวัติศาสตร์ของเมืองเชียงใหม่ ที่หากไม่มาสักการะ เหมือนมาไม่ถึงเชียงใหม่เลยหละ ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจะมีความเชื่อว่า หากมาขอพรพระธาตุดอยสุเทพ จะมีแต่ความสำเร็จ สมหวังดังปรารถนา แคล้วคลาด ผ่านพ้นอุปสรรค โดยเราจะต้องเดินขึ้นบันไดนาค จำนวน 300 ขั้น เพื่อขึ้นมาสักการะ แต่หากใครไม่สะดวกเดินก็สามารถนั่งกระเช้าขึ้นมาได้เช่นกัน เมื่อสักการะขอพรกันเรียบร้อยแล้ว เรายังสามารถหยุดพักชมวิวของเมืองเชียงใหม่ ที่บริเวณลานวัดได้ เป็นจุดที่มองเห็นความงามแบบ 360 องศาเลยทีเดียว 

ที่ตั้ง : วัดพระธาตุดอยสุเทพ 9 หมู่ที่ 9 อ.เมือง จ.เชียงใหม่

12. อุทยานธรรมเขานาในหลวง จ.สุราษฎร์ธานี
   อีกหนึ่งสถานที่ ที่ต้องแวะมาเมื่อเดินทางมาเที่ยว จ.สุราษฎร์ธานี เนื่องจากเป็นที่ตั้งของเจดีย์ลอยฟ้าพระพุทธศิลาวดี ก่อสร้างด้วยศิลาแลงจากเมืองกำแพงเพชร ตั้งอยู่บนยอดเขาหินปูนสูงจากพื้นดินเกือบ 300 เมตร ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้  นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาสักการะ ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล และชมความสวยงาม พร้อมเก็บภาพซุ้มประตูโบราณแบบ 9 ยอด มีชื่อตรงประตูซุ้มว่า “พุทธวดี” เมื่อแสงอาทิตย์ตกกระทบเข้ากับซุ้มประตูนี้ในตอนเช้า คุณจะได้เห็นภาพที่สวยงาม และยังมีความ Unseen คือ เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดในภาคใต้ ขอบอกว่าสวยไม่แพ้ภาคอื่นเลยหละ

ที่ตั้ง : หมู่ที่ 8 บ้านเขานาใน ต.ต้นยวน อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี

13. วัดเขารูปช้าง จ.สงขลา
   วัดแห่งนี้เกิดมาจากแรงศรัทธาของพระสิงคโปร์ เมื่อเข้ามาภายในวัดจะเจอกับเจดีย์หินอ่อน สวยสง่า ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาแก้ว ซึ่งถูกจำลองขึ้นมาจากมหาเจดีย์พุทธคยาของประเทศอินเดีย เนื้อหินอ่อนรอบเจดีย์ถูกแกะสลักเป็นรูปองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าปางต่างๆ ส่วนภายในจะแบ่งเป็น 2 ชั้น มีงานสถาปัตยกรรม และงานประติมากรรมที่สวยงาม และยังมีไฮไลท์ คือ การเดินเข้าไปชมความงดงามของหินงอกหินย้อยภายในถ้ำ ที่มีพระพุทธรูป และพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ (เจ้าแม่กวนอิม) องค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ คุณสามารถเข้าสักการะ กราบไหว้ เพื่อความเป็นสิริมงคล ถือเป็นอีกสถานที่ล่ำค่าของชาวสงขลา มาถึงแล้วจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด

ที่ตั้ง : หมู่ที่ 6 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา